เกิดเหตุสลดใจที่จังหวัดสุพรรณบุรี หลังเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ และ 6 ขวบ แอบเข้าไปเล่นในรถแท็กซี่เก่าที่เจ้าของจอดทิ้งไว้นาน 3 ปี แต่ปรากฏว่าเด็กติดในรถ หาวิธีออกมาไม่ได้ จนขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตทั้งคู่
ตำรวจ สภ.อู่ทอง และแพทย์นิติเวช ตรวจสอบศพเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ และอายุ 6 ขวบ หลังทั้งคู่แอบเปิดประตูเข้าไปเล่นในรถแท็กซี่สภาพเก่าของชาวบ้าน พื้นที่ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ปรากฏว่าออกมาจากรถไม่ได้ ทำให้ทั้งคู่ขาดอากาศหายใจเสียชีวิต
แม่ของเด็กที่เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า เด็กทั้ง 2 คน เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันประจำ โดยเมื่อวานนี้ทั้งคู่มาเดินเล่นแถววัดปฐมเจดีย์ด้วยกันตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ กระทั่งประมาณ 09.00 น. เธอกลับจากธนาคารจะตามลูกสาวและหลานสาวกลับเข้าบ้าน แต่ไม่เจอ จึงขอความช่วยเหลืออาสาสมัครกู้ภัยให้ช่วยออกตามหา แต่ไร้วี่แวว กระทั่งเกือบ 15.00 น. มีชาวบ้านเห็นลูกสาวและหลานสาว ติดอยู่ในรถแท็กซี่เก่าของชาวบ้านในสภาพหมดสติ จึงรีบอุ้มลูกออกมา ก่อนอาสาสมัครกู้ภัยจะช่วยปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเด็กขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน หัวอกของผู้เป็นแม่แทบสลาย
ส่วนชาวบ้านที่พบศพเด็กหญิงทั้ง 2 คน เล่าว่า พยายามออกตามหาเด็กตั้งแต่ทราบข่าวว่าหายไป แต่ก่อนหน้าจะเจอศพในรถ คิดว่าเด็กน่าจะจมน้ำในบ่อของวัด จึงให้อาสาสมัครนักประดาน้ำช่วยค้นหา แต่ไม่เจอ กระทั่งมาส่องดูที่รถแท็กซี่จึงพบศพ
ขณะที่ชายอายุ 53 ปี เจ้าของรถแท็กซี่ เล่าว่า เขาจอดรถคันนี้ทิ้งไว้นาน 3 ปีแล้ว โดยล็อกประตูทั้ง 3 บานไว้ เหลือประตูฝั่งคนขับที่ไม่ได้ล็อก ทำให้เด็กสามารถแอบเปิดเข้าไปได้ แต่เมื่อทราบข่าวว่าเด็กเสียชีวิตในรถก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า หลังจากที่เด็กทั้งสองคนชวนกันออกไปเที่ยวเล่นตามประสา แล้วเปิดประตูเข้าไปเล่นในรถ เพราะประตูด้านคนขับไม่ได้ล็อกไว้ แต่ออกมาไม่ได้ เพราะประตูอีก 3 ด้านล็อกอยู่ คาดว่าเด็กเปิดไม่เป็น ก่อนจะตะโกนเรียกให้คนช่วย แต่ไม่มีใครได้ยิน ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด และทั้งคู่อยู่ในรถนานเกินไป ทำให้ขาดอากาศหายใจ ซึ่งทางญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ตำรวจจึงได้ให้ญาตินำศพไปทำพิธีทางศาสนา
"ออกไป" - Google News
June 25, 2020 at 09:03AM
https://ift.tt/3dt5nlb
แม่ใจสลาย 2 ด.ญ.ไปเล่นในแท็กซี่เก่า เปิดประตูออกไม่ได้ ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตทั้งคู่ - ช่อง 7
"ออกไป" - Google News
https://ift.tt/2MnsD8Q
No comments:
Post a Comment